วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Windows 8 : ปรับแต่ง Metro UI ด้วย Metro UI Tweaker

หลายคนที่ติดตั้งและทดลองใช้ Windows 8 Developer Preview คงมีอาการเดียวกันก็คือ งงๆ กับ Metro Style เรียกว่าไปไม่เป็นเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเจอเมื่อใช้ Windows 8 ครั้งแรก ต้องใช้เวลานิดหน่อยกับเรียนรู้ฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 8 ในส่วนนี้ บางคนหาปุ่ม Shutdown ปุ่ม Restart หรือหา Start Menu ไม่เจอ ซึ่งผมก็ได้หาทางแก้ไขให้กลับมาใช้งานเหมือน Windows 7 โดยการแก้ไข Registry ในบทความ Windows 8 : เอา Classic Start Menu กลับมาใช้ สำหรับมือใหม่ เรื่องการแก้ Registry บางท่านจะไม่กล้าแตะต้องส่วนนี้

วันนี้ผมเลยนำวิธีการปรับแต่งด้วยโปรแกรมซึ่งเป็นวิธ ีที่ง่ายไม่ยุ่ง ยาก โปรแกรมนี้มีชื่อว่า Metro UI Tweaker for Windows 8 มีลูกเล่นที่ดีกว่าการแก้ไข Registry เพราะสามารถช่วยจัดการเปิดปิดฟังก์ชันการทำงานที่ไม่ ต้องการของ Metro UI ได้สะดวกกว่า




ฟีเจอร์ของ Metro UI Tweaker


1.  Disable Metro Start Menu – ปิดการทำงานของ Metro Start Menu ให้กลับไปอยู่ในแบบ Windows 7
2.  Disable Explorer Ribbon – ปิด Ribbon Menu ใน Windows Explorer ของ Windows 8
3.  Disable Metro Start Menu and Explorer Ribbon – ปิดทั้ง Metro Start Menu และ Explorer Ribbon
4.  Enable Metro Start Menu and Ribbon – เปิด Metro Start Menu และ Ribbon ให้กลับมาเหมือนเดิม
5.  Power Options – เพิ่มปุ่ม Logoff, Switch User, Lock, Sleep, Restart และ Shutdown ใน Start Menu Screen
6.  Add Application – เพิ่มโปรแกรมที่ต้องการให้มาแสดงในหน้า Metro Start Menu Screen


คุณๆ สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

http://www.thewindowsclub.com/downloads/MUITW8.zip


หมายเหตุ: ในการใช้ Metro UI Tweaker ครั้งแรก ถ้าโปรแกรมถามหา .Net Framework 3.5.1 เพราะ Windows 8 ไม่มี ระบบจะเตือนให้ดาวน์โหลดจากเว็บไมโครซอฟต์และทำการติ ดตั้งให้ ก็ตอบตกลงนะครับ




Credit : augie, notebookspec.com, teamzab.com

Windows 8: หน้าตาใหม่ของ Blue Screen of Death

เชื่อว่าผู้ใช้วินโดวส์ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดคงรู้จักกับอาการ"จอฟ้า"ที่เรียกอย่างเป็นทางการว่าจอสีน้ำเงินความตายกันนะครับซึ่งเป็นอาการที่วินโดวส์ทำงานผิดพลาดหรือไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ้งเตือนข้อผิดพลาด นับตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ Windows XP มาเป็น Windows Vista จนมาถึง Windows 7 นั้นหน้าจอบลูสกรีนของ Windows ที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่สำหรับ Windows 8 นั้นมีการเปลี่ยนและดีไซน์หน้าจอฟ้าใหม่ให้ดูน่ารักเป็นมิตรกว่าเดิมWindows 8 มาให้ได้ชมกันครับ

จอสีน้ำเงินความตายของ Windows 7







จอสีน้ำเงินความตาย Windows 8











เป็นอย่างไรครับแบบเก่าและแบบใหม่ของ Windows 8 ดูดีสวยกว่านะครับ 





เครดิต : augie, notebookspec.com, teamzab.com

แปลงฮาร์ดดิสก์ในเครื่องเป็น Ext เพื่อสำรองข้อมูลได้ง่าย ๆ ด้วยตัวท่านเอง

ของ Windows ได้ไม่ว่าจะเป็นของ Windows ล่มหรือโดนไวรัสจนต้องลงวินโดวส์ใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ ท่านมักจะประสบปัญหาก็คือการที่ลงวินโดวส์ใหม่จำเป็นสำรองต้องข้อมูลงานต่าง ๆ ก่อน ๆ การสำรองข้อมูลการข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ุ๊กของเราให้เป็นฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ยูเอสบีเพื่อการสำรองข้อมูลซึ่งจะมีวิธีการหลัก ๆ 2 วิธีนั่นก็คือต่อกับโน้ตบุ๊กเครื่องอื่นและต่อเครื่องคอมพิวเตอร์กับในกรณีที่ท่านมีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอยู่แล้ว










ฮาร์ดดิสก์ในโน้ตบุ๊กนั้นจะมี 2 แบบหลัก ๆ นั่นก็คือ IDE ซึ่งจะใช้ในโน้ตบุ๊กที่เก่ามาก ๆ 3-4 ปีมาแล้วและ SATA ที่จะใช้ในโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ หน่อยตรงนี้สำคัญนะครับ ป็น USB อีกที






จะเป็นเสื้อของฮาร์ดดิสก์ปกติโดยจะมีน็อตยึดกับตัวเครื่อง นการสไลด์หรือยกเสื้อฮาร์ดดิสก์ออกมาโดยระวังในส่วนของพอร์ตด้วย



อันนี้ไม่ยากให้ไขน็อตออกมาโดยจะมีน็อตยึดฮาร์ดดิสก์อยู่ทั้ง 2 ด้านมี 4 ตัววิธีแรกต่อผ่านพอร์ต USB วิธีนี้จะง่ายหน่อย โดยใช้อุปกรณ์



โน้ตบุ๊กอีกเครื่องที่สามารถใช้ได้เพื่อโอนข้อมูลไปเก็บไว้ (ยืมเพื่อนดีกว่า)
สาย IDE เพื่อ USB, SATA กับ USB (ประมาณ 200 บาท)
หรือฮาร์ดดิสก์กล่องก็ได้ (150 -- 300 บาท)


โดยทีมงานอยากแนะนำเป็นกล่องฮาร์ดดิสก์มากกว่าเพราะมีหลายระดับราคาและเก็บไว้ใช้ประโยชน์เช่นมีฮาร์ดดิสก์เก่า ๆ ก็เอามาทำเป็น Ext HDD ได้




โดยแบบแรกจะเป็นสาย IDE เพื่อ USB ที่ผมมีเก็บไว้นานแล้วหรือถ้าซื้อตอนนี้ก็จะอยู่ราว ๆ 200 -- 300 บาทซึ่งจะอะแดปเตอร์มีเอาไว้ต่อกับพวกฮาร์ดดิสก์ 3.5 นิ้วหรือไดร์ฟ DVD พีซีของได้ด้วยถ้า เป็นรุ่นใหม่ ๆ ตอนนี้สามารถรองรับทั้ง IDE SATA และ E - SATA ด้วย




อีกแบบหนึ่งคือกล่องฮาร์ดดิสก์ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปราคาถูก ๆ ก็สามารถใช้ได้แล้ว นะครับถ้าผู้ที่ซื้อใน 3 ปีนี้จะเป็นแบบ SATA เป็นหลักเลยครับโดยการต่อเป็นฮาร์ดดิสก์ภายนอกอาจจะไม่จำเป็นต้องใส่กล่องตัวก็ได้นะครับ



ทำให้ฮาร์ดดิสก์พังได้



หลังจากต่อสาย Mini USB แล้วก็พร้อมเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊กเพื่อการสำรองข้อมูลแล้วนะครับพอเสียบสายก็จะเจอฮาร์ดดิสก์ Ext ทั่ว ๆ ไปวิธีที่ 2 ต่อกับเครื่องพีซี สำหรับท่านที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้วและไม่ต้องการเสียเงินซื้อ สาย SATA เพื่อ USB ก็สามารถใช้เครื่องของท่านเพื่อการสำรองข้อมูลได้เลยนะครับแต่ว่าวิธีนี้ประหยัด SATA เท่านั้นครับเพราะถ้า IDE ที่จะต้องซื้อหัวแปลงอีกที




อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก็มีสาย SATA ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ครับ หรือไดร์ฟ DVD แบบ SATA ส่วนไฟฟ้าก็เช่นเดียวกันคือมีสายแถมและมีอยู่ที่เพาเวอร์ซัพพลายอยู่แล้วครับ




พีซีจึงสามารถแทนกันได้ อย่าวางไปบนเคสโดยไม่มีอะไรรอง เมื่อต่อเสร็จแล้วให้เปิดเครื่องก็จะเห็นฮาร์ดดิสก์ของเราแล้ว




เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เวลามีปัญหาจะสำรองข้อมูลต้องข้อมูลซึ่งทำเองได้ง่าย ๆ 




เครดิต: monkomoro45 โน๊ตบุ๊ค,, notebookspec.com, teamzab.com

Windows 8 : เอาเมนูบูต Safe Mode กับมาเหมือนเดิม

สำหรับผู้ที่ทดลองใช้ Windows 8 Developer Preview ถ้าต้องการจะเข้า Safe Mode โดยการกดคีย์ F8 ในขระบูตเครื่อง จะไม่มีทางเจอเจ้าบูต Safe Mode แบบเดิมๆ ที่เคยใช้ เพราะว่า ใน Windows 8 ไมโครซอฟต์ได้ออกแบบเปลี่ยนเป็นเมนู Troubleshooting แทน ซึ่งจะมีเมนูย่อยให้ใช้ในการแก้ไขปัญหาอีกหลายอย่างใ นเมนูนี้

แต่ถ้าเราต้องการจะเข้าทำงานในรูปแบบ Safe Mode เดิมๆ ที่เคยคุ้นเคย ผมก็หาทางนำเมนู Safe Mode กลับมาใช้ได้เหมือนเดิม โดยวิธีทำก็มีดังนี้




1.ให้เปิดหน้าต่าง Command Prompt ในสิทธิ Administrator โดยกดคีย์ Windows Logo + F แล้วพิมพ์ cmd ในช่องว่าง Search Apps

2.เมื่อเจอ cmd.exe ให้คลิกขวาที่ cmd.exe ให้มีเครื่องหมายถูกกำกับอยู่ แล้วมาคลิกที่ไอคอน Advanced เลือกคำสั่ง Run as administrator




3.ที่หน้าต่าง Command Prompt ให้พิมพ์ bcdedit /enum /v แล้ว Enter

ใน Windows Boot Loader จะเห็นว่ามีรายการบูตของ Windows 8 Developer
Preview อยู่ และมี identifier เป็น {9dea862c-5cdd-4e70-acc1-f32b344d4795} (ตัวอย่างของเครื่องผม)



4.คราวนี้เราจะเอา Boot Loader ของ Windows 8 ตามข้อ 3 มาทำเป็นบูต Safe Mode โดยการพิมพ์คำสั่งที่หน้าต่าง Command Prompt ดังนี้

bcdedit /copy {identifier number} /d “Windows 8 Safe Mode”

ใน {identifier number} ได้แก่ identifier ที่ได้จากข้อ 3 ในที่นี่ก็จะได้ตามนี้

bcdedit /copy {9dea862c-5cdd-4e70-acc1-f32b344d4795} /d “Windows 8 Safe Mode”




5.ต่อมาให้กดคีย์ Windows Logo + R เพื่อเรียกหน้าต่าง Run ออกมาใช้งาน ให้พิมพ์ msconfig ลงในช่องว่าง Open แล้ว Enter

6.เมื่อหน้าต่าง System Configuration เปิดออกมาให้คลิกที่แท็บ Boot ให้คลิกที่รายการ Windows 8 Safe Mode (C:\Windows) คลิกเครื่องหมายถุกที่ Safe boot และเครื่องหมายจุดที่ Minimal ใส่เวลานับที่ Timeout และคลิกเครื่องหมายถูกที่ Make all boot settings permanent คลิก OK




7.มีหน้าต่างเตือนยืนยันการปรับแต่งให้คลิก Yes




8.คลิก Restart



9.ขณะที่เครื่องกำลังบูตก็ให้กดคีย์ F8 จะพบว่ามีเมนูเพิ่มขึ้นมาอีกรายการนั้นคือ Use another operating system ให้คลิกที่เมนูนี้




10.เราจะพบว่ามีเมนู Windows 8 Safe Mode ให้เลือกใช้แล้วครับ





Credit : augie, notebookspec.com, teamzab.com

Windows 8 : ล็อกออนแบบไม่ต้องใส่พาสเวิร์ด

สำหรับคุณๆ ที่ทดลองใช้ Windows 8 มาแล้วจะรู้สึกได้ว่าตั้งแต่บูตเครื่องมาถึงหน้าล็อก ออน จะเร็วกว่า Windows 7 เพราะทางไมโครซอฟต์ได้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ได้ใช้ (เข้าระบบ) ได้รวดเร็ว แต่ถ้าจะให้เร็วไปกว่านั้นเอาแบบล็อกออนอัตโนมัติ ผ่านหน้าล็อกออนเข้าหน้าเดสก์ทอป พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องมากรอกพาสเวิร์ดให้เสียเวลา (เหมาะสำหรับเครื่องที่มีผู้ใช้คนเดียว) ก็เป็นการดี




วิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยาก ซึ่งวิธีการทำก็จะเหมือนกับทำใน Windows 7 แต่ที่เอามาบอกก็สำหรับคนที่ไม่ใช้วิธีนี้จะได้เรียน รู้การปรับแต่ง Windows 7 ได้ตามใจชอบ

1.ให้กดคีย์ Windows Logo + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run พิมพ์ netplwiz ลงในช่องว่าง Open แล้ว Enter




2.คลิกเลือก User ที่รายการ User Name จะทำการล็อกออนอัตโนมัติ

3.คลิกเอาเครื่องถูกออกที่ Users must enter a user name and password to use this computer คลิก OK




4.ระบบจะแสดงหน้าต่างถามพาสเวิร์ดให้ใส่พาสเวิร์ดที่ เดิมที่เคยใช้ 2 ครั้ง คลิก OK




หมายเหตุ : กรณีที่ต้องการยกเลิกการล็อกออนอัตโนมัติ ก็ให้คลิกใส่เครื่องหมายถูกที่ Users must enter a user name and password to use this computer คลิก OK


Credit : augie, notebookspec.com, teamzab.com

Windows 8 : ปิดเปิด Windows Smart Screen

Windows SmartScreen ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Windows 8 ใน Windows 7 ก็มีฟีเจอร์อยู่แล้ว แต่หน้าตาจะไม่เหมือนกัน SmartScreen คือคุณลักษณะใน Internet Explorer ที่จะช่วยตรวจจับเว็บไซต์ฟิชชิ่ง นอกจากนี้ SmartScreen ยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันต รายหรือมัลแวร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีลักษณะที่ผิดกฎหมาย มีไวรัส ฉ้อฉล หรือเป็นอันตราย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ดี แต่บางครั้งการจับผิดแล้วเตือนมากหรือเตือนตลอด ผู้ใช้ก็อาจจะเบื่อต้องการจะปิดหรือควบคุมการเตื่อน ทาง Windows 8 ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งค่าได้





วิธีปรับแต่ง Windows SmartScreen ทำได้ดังนี้

1.เมื่ออยู่ที่หน้า Desktop ให้คลิกที่ไอคอน รูปธง ที่อยู่ทางขวาของ Taskbar (ใกล้นาฬิกา) จะมีหน้าต่างเล็กๆ แสดงออกมา ให้คลิกเลือก Open Action Center




2.ที่หน้าต่าง Action Center ให้คลิกที่คำสั่ง Change SmartScreen settings ที่อยู่ทางด้านซ้ายของหน้าต่าง




3.ที่หน้าต่าง Windows SmartScreen จะคำสั่งให้เลือก 3 คำสั่ง โดยคำสั่งที่เป็นค่าดีฟอลต์ของ Windows คือ Require approval from an administrator before running unrecognized programs from the internet.เป็นการบล๊อกการทำงานต้องได้รับอนุญาติจาก Administrator ก่อน




คำสั่งที่สอง ได้แก่ Give a warning before running unrecognized program from the internet, but don’t require administrator approval เป็นการแจ้งเตือนผู้ใช้ก่อนเพื่อให้ผู้ใช้อนุญาติให้ ทำงานต่อได้ ซึ่งถ้าเลือกคำสั่งนี้ เวลาระบบทำงานและเจอสิ่งที่น่าสงสัยจากอินเตอร์เน็ต จะแสดงการเตือนตามรูปข้างล่างนี้ก่อน ถ้าผู้ใช้อนุญาติก็ให้คลิก Run Anyway ถ้าไม่ก็คลิก Don’t Run




คำสั่งที่สาม Turn off Windows SmartScreen เป็นการปิดการเตือนของ Windows SmartSceen

ผู้ใช้ต้องการเลือกคำสั่งใดก็ให้คลิกเครื่องหมายจุดท ี่หน้าคำสั่งนั้น แล้วคลิก OK

4.เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้ว ก็ปิด Action Center




Credit : augie, notebookspec.com

Windows 8 : แจ้งเตือนอีเมลใหม่บนหน้าจอล็อกเครื่อง

ไปกว่า Windows 8 ทางไมโครซอฟท์ได้ออกแบบ Windows 8 ให้ใช้ ARM กับหรืออุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กเช่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่อจะทวงคืนความเป็นผู้นำจาก iOS และ Android ซึ่งฟีเจอร์ใช้ในอุปกรณ์ เหล่านี้ ล็อคหน้าจอ แต่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ Windows 8 ละอีเมลใหม่ได้แม้จะไปได้ใช้เครื่อง ะโยชน์ไม่น้อยต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์เช่น แต่ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้ Windows 8 เครื่อง มพิวเตอร์ที่พักเครื่องไปนานได้ ล็อคหน้าจอหน้าจอของ Windows 8 ยังสามารถแสดงข้อมูลแบตเตอรี่วันเวลาได้อีก









เครดิต : augie, notebookspec.com, teamzab.com

Dual-Boot ระหว่าง Windows 7 กับ Windows 8

Windows 8 ได้ออกมาให้ลองใช้กัน ถึงจะเป็นรุ่น Developer Preview ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกมาเพื่อให้นักพัฒนาโปรแกรมทดลองหา ข้อบกพร่อง เพื่อแก้ไขให้สมบูรณ์ขึ้นในรุ่นต่อไป แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ทดลองใช้ เมื่อต้องการทดลองใช้แต่ปรกติก็มี OS เดิมอย่าง Windows 7 อยู่แล้ว จะลบออกแล้วลง Windows 8 เพียวๆ ก็จะไม่เป็นการถูกต้องนัก เพราะ Windows 8 ก็ยังไม่สมบูรณ์ และจุดประสงค์ก็เพื่อทดลองใช้

วันนี้ผมจะมาแนะวิธีสำหรับผู้ที่จะทดลองใช้ Windows 8 โดยไม่ต้องทิ้ง Windows 7 ในแบบ Dual-Boot เสียเลยเพื่อจะได้สลับไปมาในการใช้งาน









ขั้นตอนจัดพื้นที่

เริ่มแรกเราต้องแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์สำหรับ Windows 8 เอาสัก 30 GB ก็พอแล้วสำหรับการทดลอง โดยให้กดคีย์ Windows Logo + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ diskmgmt.msc ลงที่ช่องว่าง Open คลิก OK





หน้าต่าง Disk Management จะแสดงพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ในเครื่องของเรา ให้เลือกพื้นที่จะเป็นไดรฟ์ C ที่ลง Windows 7 อยู่แล้วหรือไดรฟ์อื่นก็ได้ เพียงขอให้มีพิ้นที่ว่างพอที่จะแบ่งได้สัก 30 GB ในตัวอย่าง เลือกที่ไดรฟ์ D โดยคลิกขวาที่ไดรฟ์เลือกคำสั่ง Shrink volume เพื่อหดพื้นที่ไดรฟ์ให้มีพิ้นที่ว่าง







จะมีหน้าต่างเพื่อให้เรากรอกพื้นที่ที่ต้องการ โดยใส่ตัวเลขพื้นที่ในช่อง Enter the amount of space to shrink in MB ในที่นี่ 30 GB ก็เท่ากับ 30720 MB (30 x 1024 = 30720) เมื่อใส่ตัวเลขแล้ว ให้คลิก Shrink









เราจะได้พื้นที่ 30 GB ตามต้องการ พื้นที่ที่ได้จะอยู่ในรูปแบบ Unallocated ไม่ต้องทำอะไรกับพื้นที่ที่ได้มา ให้ทำการติดตั้ง Windows 8 ต่อไปเลย




ขั้นตอนติดตั้ง Windows 8

ให้เราบูตจากแผ่น ติดตั้ง Windows 8 (DVD) หรือจะเป็นในรูปของ Bootable USB Flash Drive ก็ได้ส่วนวิธีทำแผ่นติดตั้งสามารถอ่านได้ที่บทความ วิธีสร้าง USB และ DVD เพื่อติดตั้ง Windows 8 (Windows 8 : วิธีสร้าง USB และ DVD เพื่อติดตั้ง)

เมื่อมาที่หน้าแรกของการติดตั้ง ให้เลือก Time and currency format เป็น Thai คลิก Next




จากนั้นคลิก Install now และคลิกยอมรับ License ที่ I accept the license terms แล้วคลิก Next จะมาหน้าที่ให้เราเลือกแบบที่จะติดตั้งในที่นี่เลือก Custom (Advanced)




ต่อมาก็ให้คลิกเลือกพื้นที่ Unallocated ขนาด 30 GB ที่เราทำไว้จากขั้นตอนก่อนหน้านี้ Next




จากนั้นระบบจะเข้าขบวนการติดตั้งจนแล้วเสร็จ




โดยหน้าสุดท้ายในขบวนการติดตั้งจะเป็นหน้าที่ให้เราก รอก User name, Password เมื่อคลิก Next




เมื่อเครื่องรีสตาร์ทขึ้นมาใหม่ เราจะพบหน้าบูตแบบ Dual-Boot ได้แก่ Windows 8 Developer Preview และ Windows 7 โดยมีค่า Windows 8 เป็นค่าดีฟอลต์ในการบูตตัวแรก มีเวลานับถอยหลัง 30 วินาที




Dual-Boot นี้จะเป็นหน้าบูตแบบใหม่สวยงามกว่าแบบเดิม และ เรายังสามารถปรับแต่งได้อีก โดยคลิกที่ Change defaults or choose other options จะมีรายการให้เราปรับแต่งได้ดังนี้

Change the timer – ให้ตั้งเวลานับถอยหลังได้ ค่าดีฟอลต์เป็น 30 วินาที
Choose the default – ให้เลือกว่าจะเอา Windows ตัวใดเป็นตัวบูตตัวแรก
Choose other options – จะเข้ามาที่ทูลการซ่อมระบบของ Windows 8 และอื่นๆ





Credit : augie, notebookspec.com, teamzab.com

เพิ่มความเร็วเน็ตแอร์การ์ด

วิธีที่

ไปที่ start---> run---> พิมพ์ gpedit.msc กด ok (หรือกดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิด Run ก็ได้)
จะ ปรากฏหน้าต่าง Group Policy ขึ้นมา กดเครื่องหมาย + ที่หน้า computer configuration---> Administrative Templates---> network
คลิกเลือกที่ QoS Packet Scheduler ดูกรอบทางขวามือ ดับเบิ้ลคลิกที่ Limit reservable bandwith
จะ ปรากฏหน้าต่างใหม่ Limit reservable bandwith Propoties เลือกแถบ setting คลิกเลือกที่ช่อง Enable ในกรอบ Bandwith limit(%) ปรับเป็น 0 แล้วกด ok 

2. MTU (Maximum Transmission Unit)
คือหน่วยกำหนดค่าการรับส่งข้อมูลสูงสุดผ่านระบบเครือข่าย
ถ้าเราตั้งค่า ให้ค้นหา MTU แบบอัตโนมัติ จะทำให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไป ที่ Start---> run---> พิมพ์ regedit แล้วกด Ok ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services---> Tcpip---> Parameters
คลิกขวาที่ Parameters เลือก new > DWORD Value ตั้งชื่อว่า EnablePMTUDiscovery แล้วดับเบิ้ลคลิก พิมพ์ค่าเป็น 1แล้วกด ok 


3.
เพิ่มค่าการรับส่งข้อมูล MTU ให้มากที่สุด ย่อมทำให้ระบบเครือข่ายการรับส่งข้อมูลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไปที่ Start---> Run---> พิมพ์ regedit แล้วกด Ok จะปรากฏหน้าต่าง Registry Editor ขึ้นมา
ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE---> SYSTEM---> CurrentControlSet---> Services---> Tcpip---> Parameters---> interfaces
คลิกที่หน้า interfaces จะมีหลายโฟลเดอร์ ให้คลิกขวาที่โฟลเดอร์แรก --->new--->DWORD Value--->
แล้วตั้งชื่อว่า MTU แล้วดับเบิ้ลคลิกใส่ค่าแทนเลข 0 ดังต่อไปนี้
ใส่ค่า 576